แนวการคงกำไรของนักออกแบบสาย NFT

Tech Life

ขอแวะมา Note ไว้ว่า เนื่องจากรายได้ที่จะได้เบ็ดเสร็จบนการขายชิ้นงานศิลปะ บน NFT นั้นจะได้มาเป็นเหรียญ คริปโต 

อย่างเช่นหลักๆ เลยคือ ETH (Ethereum) บนเว็บที่รู้จักกันอย่าง Opensea.io หรือ Foundation.app หรือแม้แต่ Bnb ของ Binance ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้

ทีนี้เนื่องจากตลาดคริปโต ราคามันช่างผันผวน อย่างตอนนี้ที่เขียนบทความอยู่ ราคาหล่นจากช่วงพีค 140,000 บาท ต่อ ETH 

ปัจจุบันอยู่ที่ 68,000 บาทต่อ ETH นั่นหมายความว่า มูลค่าลงมา 50% แล้ว

ดังนั้นกำไรจากการขายงานบน NFT นั้นจะคงอยู่ได้อย่างไร ส่วนตัวพลมองว่ามี 2 สาย

สายโนสน โนแคร์

สายนี้ถือว่าสามารถล๊อคมูลค่าของการขายงานได้ เพราะหลังจากขายงานได้แล้ว ให้ทำการเอากำไรที่ได้จากการขาย ไปแปลง ให้กลายเป็นเหรียญคริปโตที่เสถียรหน่อย

นั่นก็คือ USDT (Tether) และ USDC (USD Coin)

วิธีนี้จะเป็นการล๊อคมูลค่าของการขายงานช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี

ข้อเสียคือ ถ้ามูลค่าเหรียญพุ่งขึ้นจากเดิม ก็จะเสียดายนิดๆ ไปจนถึงเสียดายมากๆ ถ้ามูลค่าเหรียญมันเด้งหลายเด้ง

ถ้าจิตใจเราหักห้ามไม่ได้ และเชื่อว่าตลาดกำลังเป็นขาขึ้น ก็ลองดูอีกสาย

สายของลองหน่อย จิตใจมันหวั่นไหว

สายนี้คือจะเข้าใจว่าเหรียญที่ได้มาจากการขายงาน NFT มันมีมูลค่าที่แกว่งขึ้นลงสูง วันนี้ราคา 1 บาท พรุ่งนี้อาจจะราคา 1 บาท 25 สตางค์ (หรือเหลือ 75 สตางค์ได้เช่นกัน)

ตรงนี้ใครอยากเอามาเก็งกำไรก็แล้วแต่ความสมัครใจ

แต่ถ้าให้แนะนำ ก็ให้แบ่งออกเป็น 2 กอง

กองแรก เอาไปแลกเหรียญมูลค่าเสถียรสูงอย่าง USDT และ USDC แบบสายแรก ตรงนี้ยังไงเราก็ล๊อคมูลค่าได้แล้ว กำไรอยู่กับเรา

อีกกองก็ตามสบายเลยจ้า จะเอาไปฟาร์ม (Defi Yield), ไปเทรด, ไปฝาก (Staking) ก็แล้วแต่ความพอใจ

เพราะมาถึงจุดที่เราเลือกจะเก็งกำไรมูลค่าของเหรียญคริปโต ก็ถือว่าเราต้องยอมรับความเสี่ยงเช่นกัน

เจอกันได้ในบทความถัดไปจ้า ถ้าชอบกดไลค์กดแชร์ให้ด้วยน้า

Loading Facebook Comments ...
Menu