ทุกความสามารถของ iPhone 6 ที่คนชอบถ่ายรูปต้องรู้
iPhone 6 หน้าตาเป็นไง? เมื่อคืนโค้ชพลนอนก่อนงาน Apple จะเริ่ม เลยมานั่งดูตอนเช้า พบว่ามีน่าสนใจในแง่ของคนชอบถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอและช่างภาพ
มันเน้นหนักมาก และทำให้โค้ชพลเองก็เกิดกิเลสนิดๆ (โค้ชพลใช้ Nexus 5 อยู่) อีกสักพักมันคงก่อตัวเป็นกิเลสก้อนใหญ่ 555
ไหนๆ โค้ชพลกำลังทำบทเรียนการถ่ายรูปสินค้าเพื่อใช้ใน Social E-Commerce อยู่ (รอเดือนพฤศจิกายนนะจ๊ะ) เลยเอาความสามารถของ iPhone 6 มาสรุปให้ดูกันอย่างรวดเร็วนะจ๊ะ
คำเตือน ภาพใหญ่ ชัดๆ เยอะมาก ควรพิจารณาก่อนอ่านต่อ
ข้อมูลกล้องใหม่ใน iPhone 6 และ iPhone 6 plus
อันนี้เชิงเทคนิคนิดหนึง ถ้าคุณไม่สนใจ ข้ามไปดูความสามารถที่เราจะได้จากกล้องใหม่ด้านล่างเลย
กล้องหลัง
- กล้อง iSight ใหม่ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- True Tone Flash (มีตั้งแต่รุ่น iPhone 5)
- 1.5u pixel
- f/2.2 aperture
- เฉพาะ iPhone 6 Plus ถึงจะมีระบบกันสั่นแบบ Hardware (Image Stabilisation) ใน iPhone 6 จะใช้เป็นซอฟต์แวร์แทนครับ (แน่นอนว่าแบบ Hardware ดีกว่า)
กล้องหน้า
- Facetime HD Camera รุ่นใหม่
- Sensor ใหม่หมด
- f/2.2 aperture ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม
- ภาพสว่างขึ้น 81%
เสริมอีกนิดคือ Apple สร้างชิปสำหรับประมวลผลส่วน Image Signal Processing โดยเฉพาะไว้ในชิปรุ่นใหม่เลยครับ
ความสามารถใหม่ในการถ่ายภาพด้วย iPhone 6 และ iPhone 6 plus
Focus Pixel
ความสามารถใหม่ในกล้องของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ใช้เทคโนโลยีเดียวกับในกล้อง DSLR ทำให้ได้ความสามารถที่ดีกว่าเดิมดังนี้
- โฟกัสภาพได้เร็วขึ้น
- Local tone mapping ดีกว่าเดิม
- ลด Noise ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
และทำให้เราได้ความสามารถใหม่ๆ ดังรายการด้านล่างครับ
1. Panorama ละเอียด 43 ล้านพิกเซล
…โอ้วคุณพระ!
2. Face Detection
จับภาพหน้าเพื่อนๆ กันจะๆ และมีผลทำให้โหมดถ่ายรัว (Burst Mode) สามารถเลือกภาพที่หน้าชัดที่สุดให้ได้อีกด้วย
3. Face Detection สำหรับกล้องหน้า (ขา Selfie)
โฟกัสได้เจ๋ง และเร็วกว่าเดิม ขาเซลฟี่กรี๊ดสลบ
4. Burst Mode ถ่ายรัวแบบเซลฟี่
ถ่ายกันรัวๆ ทำได้กับกล้องหน้าแล้วครับ
ความสามารถใหม่ในการถ่ายวิดีโอด้วย iPhone 6 และ iPhone 6 plus
เนื่องจากตอนนี้เรายังไม่มีวิดีโอจริงๆ ที่ถ่ายด้วย iPhone 6 ไม่ได้ เอาความสามารถ และภาพนิ่งดูพลางๆ ก่อนแล้วกันเนอะ
- ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 1080p เลือกได้ว่าจะถ่ายแบบ 30 เฟรมต่อวินาที หรือ 60 เฟรมต่อวินาที (ลื่นหัวแตก)
- โหมด Slow Mo (ถ่ายแล้วเล่นภาพช้าๆ) เลือกได้ว่าจะถ่ายแบบ 120 เฟรมต่อวินาที หรือ 240 เฟรมต่อวินาที (ทำท่า The Matrix กันเถอะ)
- โฟกัสวัตถุในวิดีโอแบบ real-time
- ถ่าย Video แบบ HDR ได้แล้ว
ถ่ายวิดีโอ Time-lapse ได้
ดูกันเลยครับ ไม่ต้องเอาเข้าโปรแกรมอะไรแล้ว
ตบท้ายด้วยราคาที่เปิดตัว
แล้วมาดูกันว่าเมืองไทยจะราคาเท่าไหร่? จะแพงขึ้นมั้ย?
- Facebook Comment